เป็นนกขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ในวงศ์ Laniidae จัดเป็นนกอพยพย้ายถิ่นอาศัยเข้ามาหากินในประเทศไทย พบได้บ่อยในช่วงปลายฤดูร้อนและปลายฤดูฝน ซึ่งนกอีเสื้อสีน้ำตาลมีถิ่นการกระจายพันธุ์กว้างขวาง โดยพบได้ตั้งแต่เอเชียเหนือจรดยุโรป, เอเชียกลาง, เอเชียตะวันออก, เอเชียใต้ และยังพบได้ที่อเมริกาเหนือ จึงมีชนิดย่อยด้วยกันทั้งหมด 4 ชนิด
ลักษณะ หัวโต คิ้วเป็นเส้นสีน้ำตาลอ่อนออกขาว ปากใหญ่หนา ปลายปากแหลมงุ้มเป็นจะงอยสีน้ำตาลเข้มออกดำ ซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นและที่แปลกกว่านกทั่ว ๆ ไปคือ มีฟันแหลมอยู่หนึ่งซี่อยู่ที่ขอบปากบน มีแถบสีดำตั้งแต่โคนปากไปถึงหู ดูคล้ายหน้ากากลำตัวเพรียว ขนคลุมลำตัวสีน้ำตาลแดง ปีกสีน้ำตาลเข้มที่ใต้คาง หน้าอกสีน้ำตาลปนขาว หางยาวสีตาลเข้มกว่าลำตัว ใต้หางบริเวณก้นสีน้ำตาลปนเทาอ่อน ขาสีดำ เล็บแข็งแรงแหลมคม ตัวผู้และตัวเมียสีจะคล้ายกัน ขนาดโตเต็มวัยวัดจากหัวถึงปลายหางยาวประมาณ 20 เซนติเมตร
พฤติกรรม มีนิสัยหวงถิ่นหากิน มักส่งเสียงดัง "แจ้ก... แซ้ก...แจ้ก...แซ็ก" บินวนไปมาเพื่อไล่นกชนิดอื่น ๆ ที่เข้ามาใกล้เขตหากิน ไม่เว้นแม้แต่นกล่าเหยื่ออย่างเหยี่ยว ปกติชอบหากินตามลำพัง เกาะอยู่ตัวเดียวตามกิ่งไม้, รั้วบ้าน, ทุ่งหญ้า, ท้องนาโล่ง อย่างสงบนิ่งไม่ส่งเสียงหรือเคลื่อนไหว มีเฉพาะเพียงดวงตาที่คอยขยับเขยื้อนจับจ้องมองหาเหยื่อล่าอาหารจำพวก แมลงปีกแข็ง, ตั๊กแตน, กบ, เขียด, จิ้งเหลน, กิ้งก่า, ลูกหนู รวมทั้งลูกนกชนิดอิ่นด้วย เมื่อล่าเหยื่อได้แล้วจะใช้เขี้ยวที่ปากที่แหลมคมฉีกเนื้อของเหยื่อที่จับได้ออกเป็นชิ้น ๆ กิน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่คล้ายสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างเสือโคร่งหรือเสือดาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ คือ หลังจับเหยื่อได้แล้วจะไม่กินจนหมด แต่จะใช้ประโยชน์จากต้นไม้ที่มีหนามหรือแม้กระทั่งลวดหนามเพื่อเสียบเหยื่อให้สามารถฉีกกินได้สะดวก จนกระทั่งอิ่ม ซึ่งพฤติกรรมการล่าเหยื่อนี้ยังใช้เพื่อดึงดูดตัวเมียด้วยเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น