นกปรอดหัวโขน หรือ นกปรอดหัวจุก
หรือที่นิยมเรียกกันว่า นกกรงหัวจุก(นกประจำถิ่น)
อังกฤษ: Red-whiskered bulbul;
พายัพ: นกปิ๊ดจะลิว;
ชื่อวิทยาศาสตร์:Pycnonotus jocosus
เป็นนกที่อยู่ในวงศ์นกปรอด (Pycnonotidae) ซึ่งอยู่ด้วยกันทั้งหมด 109 ชนิด
สำหรับในประเทศไทยพบได้ 36 ชนิดนกปรอดหัวโขนเป็นนกขนาดเล็ก ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 20
เซนติเมตร ที่มีสีสันสวยงามและเสียงร้องไพเราะ
ที่แก้มและคอจนถึงหน้าอกจะมีสีขาวและมีสีแดงเป็นเส้นอยู่ข้างหูลงมาถึงหน้าอกเหมือนเป็นเส้นแบ่งขนสีขาวกับสีดำที่มีอยู่ทั่วทั้งตัวขนส่วนหัวจะร่วมกัน
เป็นเหมือนหน่อตั้งอยู่บนหัวสูงขึ้นไปเหมือนหัวโขน อันเป็นที่มาของชื่อ
ใต้ท้องมีขนสีขาว พบกระจายอยู่ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียใต้, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จนถึงเอเชียตะวันออกพบได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ตั้งแต่ยอดเขาสูง ป่าที่ราบต่ำ
จนถึงทุ่งหญ้า ชายป่า และเขตที่ใกล้กับชุมนุมมนุษย์นกปรอดหัวโขน
เป็นที่นิยมในแง่ที่เป็นสัตว์เลี้ยง ที่เลี้ยงเพื่อฟังเสียงร้องอันไพเราะ
และเพื่อการแข่งขันเสียงร้อง เช่นเดียวกับนกเขาชวา (Geopelia striata) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย
โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ติดกับมาเลเซีย คือ นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา
ซึ่งการเลี้ยงนกชนิดนี้เป็นเหมือนหนึ่งในวัฒนธรรมและวิถีการดำรงชีวิตของผู้คนที่นั่น
นกปรอดหัวโขนหากได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง สามารถมีอายุยืนนานได้ถึง 11 ปี
และนกตัวใดที่มีเสียงร้องไพเราะและได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดแข่งขัน
อาจมีสนนราคาถึงหลักล้านบาทปัจจุบัน นกปรอดหัวโขน
เป็นสัตว์ที่มีรายชื่ออยู่ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
แต่มีความพยายามของผู้ที่นิยมเลี้ยงผลักดันให้เป็นสัตว์ที่เลี้ยงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ซึ่งประเด็นนี้มีทั้งผู้ที่เห็นและคัดค้านเนื่องจากจนถึงปัจจุบันนกปรอดหัวโขนที่เลี้ยงไว้เกือบทั้งหมดมาจากการจับจากธรรมชาติทั้งสิ้น
ไม่ได้มาจากการเพาะเลี้ยงอย่างที่อ้างกัน
ซึ่งการจับนกจากธรรมชาติเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นกชนิดนี้สูญพันธ์ไปจากธรรมชาติในภาคใต้ของประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น